เริ่มต้นใช้งาน Google Analytics 4
เริ่มต้นใช้งาน Google Analytics 4
ประกาศโดย บริษัท อาร์ชิมัสค์ จำกัด | 2022-12-03 04:30:41
สำหรับเจ้าของเว็บไซต์และแอปที่ได้สร้างพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 เรียบร้อยแล้ว
Google Analytics 4
บทความนี้มีไว้สำหรับเจ้าของเว็บไซต์และแอปที่ได้สร้างพร็อพเพอร์ตี้
Google Analytics 4 เรียบร้อยแล้ว
หากมีแต่พร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics เท่านั้น
ให้ดูวิธีใช้ผู้ช่วยการตั้งค่าในพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics
เข้าถึงผู้ช่วยการตั้งค่า
- คลิกผู้ดูแลระบบใน Google Analytics
- ตรวจสอบว่าคุณใช้บัญชีและพร็อพเพอร์ตี้ที่ถูกต้อง
- คลิกผู้ช่วยการตั้งค่า
การเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับเว็บไซต์
เก็บรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์และแอป
คุณเริ่มรวบรวมข้อมูลได้โดยการเพิ่มโค้ดการวัดบางรายการลงในเว็บไซต์หรือแอป
โดยโค้ดการวัดจะรวบรวมข้อมูลผู้ใช้จากเว็บไซต์หรือแอปของคุณ
การตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้
เปิด Google Signals
เมื่อเปิด Google Signals คุณจะสามารถรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้ที่เปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ของตนเองได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Signals
หากต้องการเปิด Google Signals ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในผู้ช่วยการตั้งค่า ให้คลิกเมนูการทํางาน
ทางด้านขวาของแถว
- คลิกจัดการ Google Signals
- เปิดการเก็บรวบรวมข้อมูล Google Signals ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
- เมื่อทําตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิกเมนูการทำงาน
เพื่อทําเครื่องหมายแถวว่าเสร็จสมบูรณ์
ตั้งค่า Conversion ระบุการโต้ตอบสำคัญของผู้ใช้ซึ่งมีความหมายกับธุรกิจมากที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ตั้งค่า Conversion
Conversion คือการกระทําใดๆ ก็ตามของผู้ใช้ที่มีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณ เช่น ผู้ใช้ซื้อของจากร้านค้าหรือสมัครรับจดหมายข่าว
การตั้งค่า Conversion จะช่วยให้คุณรายงานการกระทําที่มีความสําคัญต่อธุรกิจมากที่สุด ใช้ข้อมูล Conversion สําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ และรีมาร์เก็ตไปยังผู้ใช้ที่ไม่ได้ทำ Conversion ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Conversion
ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion
ใน Google Analytics ระบบจะวัดการโต้ตอบของผู้ใช้โดยใช้เหตุการณ์ เมื่อต้องการวัดการกระทําที่ถือเป็น Conversion ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่วัดการกระทำของผู้ใช้เป็น Conversion
* ทุกครั้งที่ผู้ใช้เรียกใช้เหตุการณ์ ระบบจะบันทึก Conversion ไว้ใน Google Analytics และแสดงในรายงานของคุณ
- ในการทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่มีอยู่เป็น Conversion ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ใน Google Analytics ให้ไปที่กําหนดค่า > เหตุการณ์ทางด้านซ้าย
- ในตารางเหตุการณ์ที่มีอยู่ ให้เลือกปุ่มสลับในส่วนทําเครื่องหมายเป็น Conversion
หากคุณเพิ่งสร้างเหตุการณ์หรือยังไม่ได้สร้าง ให้ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทําเครื่องหมายเหตุการณ์ใหม่เป็น Conversion ได้ในส่วน ตั้งค่า Conversion
เมื่อทําตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิกเมนูการทำงาน
เพื่อทําเครื่องหมายแถวว่าเสร็จสมบูรณ์
กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ค้นหา จัดกลุ่ม และรีมาร์เก็ตไปยังผู้เข้าชมที่มีส่วนร่วมมากที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มผู้ใช้ที่แชร์แอตทริบิวต์ คุณสามารถแชร์กลุ่มเป้าหมายกับผลิตภัณฑ์เพื่อการโฆษณาที่ใช้ เช่น Google Ads เพื่อทําการตลาดกับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะได้ ดูวิธีกําหนดกลุ่มเป้าหมายได้ที่ส่วน
สร้าง แก้ไข และเก็บกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อทําตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิกเมนูการทำงาน
เพื่อทําเครื่องหมายแถวว่าเสร็จสมบูรณ์
กลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม จัดการผู้ใช้ / เพิ่มผู้ใช้ กลุ่มผู้ใช้ และสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
จัดการผู้ใช้
ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ได้
เพิ่มผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้
หากต้องการเพิ่มผู้ใช้ใหม่ในพร็อพเพอร์ตี้ ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ในผู้ช่วยการตั้งค่า ให้คลิกเมนูการทํางาน
ทางด้านขวาของแถว
- คลิกจัดการผู้ใช้
- ในการจัดการการเข้าถึงพร็อพเพอร์ตี้ ให้คลิก + แล้วคลิกเพิ่มผู้ใช้
- ป้อนอีเมลสําหรับบัญชี Google หรือบัญชี Google Workspace ของผู้ใช้
- เลือกแจ้งผู้ใช้ใหม่ทางอีเมลเพื่อส่งข้อความถึงผู้ใช้
- เลือกสิทธิ์ที่ต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์
- คลิกเพิ่ม
* อีเมล Google ที่คุณใช้เพื่อเพิ่มผู้ใช้และรหัสผ่านที่เชื่อมโยงกับอีเมลนั้นจะกลายเป็นข้อมูลเข้าสู่ระบบ Analytics สําหรับผู้ใช้รายนั้น
* เมื่อทําตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้คลิกเมนูการทำงานเพื่อทําเครื่องหมายแถวว่าเสร็จสมบูรณ์
ดูวิธีนําผู้ใช้ออกและสร้างกลุ่มผู้ใช้ได้ที่ส่วนเพิ่ม แก้ไข และลบผู้ใช้และกลุ่มผู้ใช้ Analytics
นําเข้าผู้ใช้จาก Universal Analytics
- ดูวิธีนําเข้าผู้ใช้จากพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics ได้ที่ส่วนเครื่องมือย้ายข้อมูลผู้ใช้
แนะนำเพิ่มเติม
Firebase Web SDK
แนะนำการใช้ชุดรวมโมดูล (webpack/Rollup) สำหรับการลดขนาด
Firebase Web SDK ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับชุดรวมโมดูลเพื่อนำโค้ดที่ไม่ได้ใช้ออก (การสั่นแบบต้นไม้) เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้วิธีนี้สำหรับแอปที่ใช้งานจริง เครื่องมือต่างๆ เช่น Angular CLI , Next.js , Vue CLI หรือ Create React App จะจัดการการรวมโมดูลสำหรับไลบรารีที่ติดตั้งผ่าน npm และนำเข้าสู่ codebase ของคุณโดยอัตโนมัติ
ดูคำแนะนำ การใช้ชุดรวมโมดูลกับ Firebase สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

